นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เดินทางพร้อมกับ ผู้เสียหายจากคดีที่ถูกดาบตำรวจอดิศรและพวกทำร้ายใช้ปืนจ่อหัวพยายามฆ่า ทั้ง 3 ราย เข้าร้องขอความเป็นธรรม ที่สถานีตำรวจภูธรสมุทรปราการ
เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 16 กันยายน 2564 นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้พานายสุวรรณ ลอรักษา อายุ 34 ปี และผู้เสียหายอีก 2 รายที่เป็นหญิงสาวอายุ 16 และ 18 ปี ผู้เสียหายที่ถูกดาบตำรวจอดิศร ทุมมาโต ผู้บังคับหมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.บางปู สมุทรปราการ และพวกรวม 6 คน ร่วมกันรีดเอาทรัพย์ ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ ร่วมกันกักขังหน่วยเหนี่ยว ร่วมกันทำร้ายร่างกาย และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ โดยเหตุเกิดที่บริเวณประตูหน้าบริษัท แวค แวน คอน เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา ได้เดินทางมาที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เข้าพบ พ.ต.อ.สมชาย สารชน ผกก.สอบสวนปฏิบัติราชการ ตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย เพื่อติดตามความคืบหน้าของคดีและให้ปากคำเพิ่มเติม
นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้กล่าวว่า ทั้งนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2564 ดาบตำรวจ อดิศร ได้ถือปืนพกสั้นบุกเข้าไปในป้อมยามหน้าบริษัท แวค แวน คอน ที่นายสุวรรณ ลอรักษา อายุ 34 ปี ทำงานอยู่ ก่อนที่ดาบตำรวจอดิศร จะใช้อาวุธปืนจี้ที่ศีรษะของนายสุวรรณ ผู้เสียหายและบังคับให้นายสุวรรณ ออกมาด้านนอกป้อม ซึ่งมีพวกของดาบตำรวจอดิศร อีก 5 คนยืนรออยู่ ก่อนที่ทั้งหมดจะช่วยกันลากตัวเข้าไปช่วยกันรุมซ้อมภายในโรงงานซึ่งมีลักษณะเป็นโกดังโดยใช้แกนกระดาษตีตามร่างกายหลายครั้ง จนนอนกองอยู่กับพื้น ก่อนที่ ดาบตำรวจอดิศร จะเดินไปถอยรถยนต์กระบะเข้ามาในโรงงานก่อนทั้งหมดจะพยายามลากตัวผู้เสียหายขึ้นท้ายรถกระบะ พร้อมข่มขู่โดยการใช้นิ้วปาดที่ลำคอ และบอกว่าจะพาไปฝังกลบที่เพชรบุรี ระหว่างนั้นผู้เสียหายจึงฉวยโอกาสวิ่งหนีออกมาหน้าประตูโรงงาน เพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน แต่ถูกดาบตำรวจอดิศร และพวกตามมาล็อกตัวเอาไว้ได้และพยายามหิ้วขึ้นท้ายรถกระบะ แต่จังหวะนั้นมีพลเมืองดีได้วิ่งเข้ามาขัดขวาง ดาบตำรวจอดิศร ได้อ้างตัวเองว่าเป็นตำรวจปทุมธานี ชาวบ้านจึงขอให้ผู้ก่อเหตุทั้งหมดแสดงบัตรตำรวจ แต่ไม่มีใครเอาบัตรมาแสดงแต่อย่างใด ชาวบ้านจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองด่าน ให้มาตรวจสอบ จึงทราบว่าดาบตำรวจอดิศร เป็นตำรวจจริงแต่ประจำการณ์อยู่ที่โรงพัก สภ.บางปู และยอมปล่อยตัวผู้เสียหาย
ต่อมาดาบตำรวจอดิศร ได้โทรศัพท์เข้ามาข่มขู่และขอให้ผู้เสียหายเดินยาเสพติดให้ แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ ดาบตำรวจอดิศร และพวกจึงได้ไปหาบิดาและมารดาของผู้เสียหายและทำร้ายร่างกาย และใช้อาวุธปืนจ่อที่ศีรษะของมารดา และกรรโชกทรัพย์เงินไปจำนวน 200 บาท โดยระหว่างที่นายสุวรรณ ผู้เสียหายและบิดาและมารดาถูกหน่วงเหนี่ยวกักขัง ดาบตำรวจอดิศร และพวกได้ทำการทุบตีผู้เสียหายและพวกยาวนานกว่า 10 ชั่วโมง ซึ่งผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์เอาไว้ที่ สภ.บางพลี และ สภ.คลองด่าน แต่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนไม่ได้ส่งส่งเรื่องกรณีดังกล่าวมายังคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ในเรื่องทำร้ายร่างกาย พยายามฆ่า กักขังหน่วงเหนี่ยว และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ในวันนี้ตนในฐานะทนายความ จึงเข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมให้ตั้งคณะทำงานติดตามคดีนี้ เพราะผู้ก่อเหตุเป็นข้าราชการตำรวจที่กระทำต่อประชาชนที่เป็นการกระทำที่อุกอาจและเป็นภัยต่อสังคม เกรงว่าผู้เสียหายทั้งหมดจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงอยากมีการตั้งคณะทำงานลงมาควบคุมในเรื่องนี้ด้วย