เมื่อช่วงบ่ายของวานนี้ที่ 10 กันยายน 2564 นายสมบัติ โรจน์ธนเดช อายุ 55 ปี ผู้ถือหุ้น บริษัท กรีน เพาเดอร์โคทติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งตั้งอยู่ภายในซอยธนสิทธิ์ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ พร้อมด้วย ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ในคดีลักทรัพย์เครื่องจักรของบริษัท กรีน เพาเดอร์โคทติ้งส์ (ประเทศไทย) ซึ่งถูกบริษัท พ ลักเอาเครื่องจักรไปประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมในโรงงานเถื่อน วันนี้จึงเดินทางมาสอบถามหัวหน้าอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ว่าได้มีการดำเนินคดีเกี่ยวกับการทำโรงงานผิด พรบ.ปี พ.ศ.2535 อย่างไรและมีการยื่นส่งรายงานของการตรวจสอบเครื่องจักรในคดีลักทรัพย์เครื่องจักรของบริษัท กรีนเพาเดอร์โคทติ้งส์ (ประเทศไทย) ให้เจ้าพนักงานสอบสวนอย่างไรบ้าง เนื่องจากสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้แจ้งว่า ได้ส่งเอกสารเกี่ยวกับกากระทำความผิดของบริษัท พ ให้แก่พนักงานสอบสวน สภ.บางพลี แล้วแต่พนักงานสอบสวนแจ้งว่า ยังไม่ได้รับเอกสารวันนี้จึงพร้อมด้วยทนายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ ได้เดินทางมายื่นหนังสือเพื่อสอบถามความคืบหน้าของการดำเนินการของทางสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ
นายสมบัติ โรจน์ธนเดชาพงษ์ ผู้เสียหายได้กล่าว่า ตนได้ฐานะผู้ถือหุ้น บริษัท กรีนเพาเดอร์โคทติ้งส์ (ประเทศไทย) และในฐานะส่วนตัว และผู้ได้รับมอบอำนาจจากนางสามชมพูนุช วิริยานันทกุล จึงมีความประสงค์ขอสอบถามว่าสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการมอบอำนาจให้นิติกร มาดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีกับ บริษัท พ หรือยัง และดำเนินการอย่างไรก็บริษัท พ และขอคัดถ่ายเอกสารที่เกี่ยวกับ บริษัท กรีน เพาเดอร์โคทติ้งส์ (ประเทศไทย) และบริษัท พ ที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรปราการ ได้ส่งให้แก่พนักงานสอบสวนแล้ว และเอกสารทั้งหมดที่เกี่ยวกับบริษัท กรีนเพาเดอร์โคทติ้งส์ (ประเทศไทย) และบริษัท พ โดยให้เจ้าหน้าที่รับรอง เอใช้ประกอบการดำเนินคดี ต่อศาลที่มีเขตอำนาจ เนื่องจากตนและ นางสาวชมพูนุช วิริยานัทกุล เป็นบุคคลที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำดังกล่าวข้างต้น เพื่อใช้ในการประกอบการดำเนินกระบวนการพิจารณาคดีต่อศาลที่มีเขตอำนาจต่อไป
ผศ.ดร.เกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ เปิดเผยว่า การมาติดตามในวันนี้มีผลคืบหน้าอย่างไรก็จะใช้สิทธิ์ทางศาล ซึ่งอาจะปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอย่างไร หรือถ้าละเว้นอย่างไรก็จะดำเนินการต่อไป จัดหนักให้ถือว่าดำเนินการที่ไม่ทำตามกฎหมาย มีการทุจริตหรือเปล่ามีการละเว้นหรือไม่ 157 ถ้าเข้าข่ายอย่างไร ตามที่ผู้เสียหายได้มาร้องเรียน คือถ้าไม่มีอะไรคืบหน้าหรือชัดเจนขึ้นทางเราก็จะดำเนินฟ้องเอง ถ้าดูแล้วเข้าข่ายประพฤติมิชอบหรือละเว้นหรือเข้าข่ายทุจริตหรือไม่ ถ้าใช่ 157 ตนก็จะดำเนินการ หลังจากนี้ไปถ้าไม่มีความคืบหน้าตนก็จะฟ้องหน่วยงานทั้งหมดและผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดทั้งคดีอาญาและคดีแพ่งต่อไป